BCP คืออะไร? แผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจที่ช่วยองค์กรรอดวิกฤต ปี 2025
อัพเดทล่าสุด: 18 ต.ค. 2025
80 ผู้เข้าชม

BCP คืออะไร?
BCP (Business Continuity Plan) คือ แผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ที่องค์กรจัดทำขึ้นเพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง แม้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ ระบบล่ม การโจมตีทางไซเบอร์ หรือโรคระบาด
เป้าหมายของ BCP คือ ลดผลกระทบต่อธุรกิจให้น้อยที่สุด และ ฟื้นฟูการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว
ความสำคัญของ BCP ต่อองค์กร
- ลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ
- สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า คู่ค้า และผู้ถือหุ้น
- ป้องกันความเสียหายต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ
- ช่วยให้พนักงานรู้แนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
- สนับสนุนการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) อย่างมีระบบ
เป้าหมายหลักของแผน BCP
- รักษาการดำเนินงานหลักขององค์กร ให้ทำต่อได้แม้เกิดเหตุไม่คาดคิด
- ลดระยะเวลาหยุดชะงัก (Downtime) ของกระบวนการที่สำคัญ
- ฟื้นฟูระบบและข้อมูลสำคัญ ให้กลับมาใช้งานได้เร็วที่สุด
- ปกป้องทรัพยากรหลักขององค์กร เช่น บุคลากร ข้อมูล และโครงสร้างพื้นฐาน
ขั้นตอนการจัดทำแผน BCP
- การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment)
วิเคราะห์ภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นและผลกระทบที่มีต่อองค์กร - การวิเคราะห์ผลกระทบทางธุรกิจ (Business Impact Analysis BIA)
ระบุว่ากระบวนการใดสำคัญที่สุด และควรฟื้นฟูก่อน - การกำหนดกลยุทธ์การรับมือ (Strategy Development)
วางแนวทางสำรอง เช่น การทำงานจากที่อื่น หรือการสำรองข้อมูลบนคลาวด์ - การจัดทำแผนปฏิบัติการ (Plan Development)
สร้างคู่มือหรือแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุ เช่น การติดต่อฉุกเฉิน การฟื้นฟูระบบ IT - การทดสอบและปรับปรุงแผน (Testing & Review)
ทดลองใช้งานแผนจริงเป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่าใช้ได้ผลและปรับปรุงให้ทันสมัย
องค์ประกอบสำคัญของแผน BCP
- รายชื่อทีมบริหารวิกฤต (Crisis Management Team)
- ช่องทางการติดต่อและการสื่อสารภายในภายนอก
- แผนกู้คืนระบบสารสนเทศ (IT Disaster Recovery Plan DRP)
- ขั้นตอนการฟื้นฟูการดำเนินงาน
- แผนฝึกซ้อมและประเมินผล
ตัวอย่างเหตุการณ์ที่ต้องใช้ BCP
- น้ำท่วม/ไฟไหม้ในพื้นที่สำนักงาน
- ระบบเซิร์ฟเวอร์ล่มหรือข้อมูลสูญหาย
- การโจมตีทางไซเบอร์ (Cyber Attack)
- โรคระบาด เช่น COVID-19
- การหยุดงานของพนักงานในตำแหน่งสำคัญ
ประโยชน์ของการมี BCP ในองค์กร
- เพิ่มความมั่นคงและความพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน
- ลดความเสียหายทางการเงินและชื่อเสียง
- ทำให้การฟื้นฟูธุรกิจทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและผู้ลงทุน
- สนับสนุนการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เช่น ISO 22301
BCP ต่างจาก DRP อย่างไร?
- BCP (Business Continuity Plan) เน้นความต่อเนื่องของ ธุรกิจ โดยรวม เช่น การทำงาน การสื่อสาร การบริหารลูกค้า
- DRP (Disaster Recovery Plan) เน้นการฟื้นฟู ระบบ IT หลังเกิดเหตุ เช่น การกู้ข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์
ทั้งสองแผนจึงควรถูกพัฒนาและใช้งานร่วมกันเพื่อให้การบริหารความเสี่ยงมีประสิทธิภาพสูงสุด
บทความที่เกี่ยวข้อง
การระบุและวิเคราะห์ "ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย" (Interested Parties) ตามมาตรฐาน ISO 9001:2015 ช่วยให้องค์กรสามารถเข้าใจความคาดหวังและความต้องการของฝ่ายต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก เพื่อการวางแผนระบบคุณภาพที่ตอบสนองอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ.
25 พ.ย. 2025
ISO 14001 คือมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (EMS) ที่ช่วยให้องค์กรลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ปรับปรุงกระบวนการ และสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ เรียนรู้หลักการ ข้อกำหนด และประโยชน์ของ ISO 14001 ได้ที่นี่!
28 ก.ย. 2025
ISO 9001 คือมาตรฐานระบบบริหารคุณภาพสากลที่ช่วยให้องค์กรพัฒนาการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และยกระดับภาพลักษณ์องค์กร เรียนรู้หลักการ ข้อกำหนด และประโยชน์ของ ISO 9001 ได้ที่นี่!
28 ก.ย. 2025


